กรุงไทยชวนรู้จัก Alibaba DR ก่อนเปิดขาย IPO วันที่ 14-17 ก.พ.นี้

0 Comments

ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา คำว่า”DR”คงจะผ่านหูผ่านตาบรรดานักลงทุนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย…ทั้งผู้ที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศอยู่แล้ว หรือผู้ที่กำลังมองหา-อยากทดลองลงทุนในหุ้นต่างประเทศ แต่ก็มีความกังวลในความซับซ้อนหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน หรือการเปิดบัญชีซื้อขายที่ยุ่งยาก…แล้ว DR จะเข้ามาจตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างไร…

*DR..คืออะไร…*
DR มีชื่อเต็มๆว่า Depositary Receipt หรือที่เรียกว่า ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ เป็นตราสารทางการเงินชนิดใหม่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน ในการลงทุนหลักทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศ โดยนักลงทุนไทยสามารถใช้บัญชีซื้อขายหุ้นในการซื้อขาย DR ในรูปสกุลเงินบาทได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถติดตามข่าวสารและสิทธิประโยชน์ทีเกิดขึ้นได้จากการรายงานข่าวของผู้ออก DR ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกด้วย

ดังนั้น DR จึงถือเป็นหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งที่จดทะเบียนให้ซื้อขายได้เหมือนหุ้น โดยผู้ออก DR ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะเป็นผู้ไปซื้อหุ้นต่างประเทศมาเก็บไว้กับผู้ดูแลและเก็บรักษาหลักทรัพย์ต่างประเทศ แล้วเสนอขายเป็น DR ให้กับนักลงทุนไทยในรูปสกุลเงินบาท ดังนั้น ผู้ถือ DR จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เสมือนไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศโดยตรง ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเท่า นอกจากนี้ เพื่อให้นักลงทุนไทยสามารถซื้อขาย DR ได้ง่ายขึ้น ผู้ออก DR จะทำการแตกหุ้นต่างประเทศออกเป็นหน่วยย่อยๆ เช่น กำหนดสัดส่วน 1 หุ้นต่างประเทศต่อ 100 DR เป็นต้น

*เปรียบเทียบ DR กับหุ้นต่างประเทศ*
มาถึงตรงนี้แล้ว..ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออก มาลองเปรียบเทียบกันเลยดีกว่า..ว่าข้อแตกต่างระหว่างการลงทุนใน DR กับการลงทุนโดยตรงต่างประเทศอย่างไร
เริ่มกันตั้งแต่วิธีการซื้อขาย DR นักลงทุนสามารถซื้อขาย DR ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขณะที่ในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศโดยตรง นักลงทุนต้องเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหุ้นในต่างประเทศก่อน และจะสามารถซื้อขายได้ตามเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ต้องการซื้อขายหุ้นดังกล่าว และอีกประเด็นที่สำคัญคือ สกุลเงินที่ใช้ในการซื้อขาย หากเป็นการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ผู้ลงทุนก็ต้องแลกเงินเป็นเงินตราต่างประเทศสกุลนั้นๆ และโอนเงินต่างประเทศเพื่อเตรียมการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการโอนเงินต่างประเทศไป-กลับเกิดขึ้น นับเป็นเป็นต้นทุนแฝงที่นักลงทุนต้องรับภาระ นอกจากนี้ ในด้านของอัตราค่าธรรมเนียม อัตราค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย DR จะอยู่ในอัตราเดียวกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่การซื้อขายหุ้นต่างประเทศจะเป็นไปตามที่โบรกเกอร์กำหนด

สำหรับส่วนของการจัดการภาษี DR จะมีลักษณะเดียวกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวคือ นักลงทุนที่ซื้อขาย DR จะได้รับการยกเว้นภาษี capital gain กรณีมีกำไรจากส่วนต่างราคา ในขณะที่การซื้อขายหุ้นต่างประเทศ อัตราภาษีจะขึ้นอยู่กับกฎหมายของประเทศนั้นๆ สำหรับในด้านของข่าวสารข้อมูลต่างๆ ก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยผู้ถือ DR จะสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารหุ้นที่ตนเองถือได้จากเว็ปไซต์ของ ก.ล.ต. และเว็บไซต์ของผู้ออก DR ขณะที่หุ้นต่างประเทศจะติดตามข้อมูลได้จากโบรกเกอร์ที่ให้บริการ ซึ่งความเข้าถึงข้อมูลก็จะมีความยาก-ง่ายต่างกัน

*สิ้นสุดการรอคอยกรุงไทยเตรียมขายIPO DR*
ด้วยจุดเด่นของ DR ดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของธนาคารกรุงไทนที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการลงทุนให้กับนักลงทุนทุกๆกลุ่ม โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่สนใจการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยขณะนี้ กรุงไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้เตรียมพร้อมที่จะออกและเสนอขายตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ Alibaba DR (BABA80) ซึ่งอ้างอิงในหุ้นสามัญที่เรารู้จักดีในชื่อ Alibaba Group Holding Limited จดทะเบียนที่ The Stock Exchange of Hong Kong Limited อยู่ในอุตสาหกรรม Information Technology หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ โดย Alibaba DR จะทำการเปิดจองซื้อแบบ IPO ต่อประชาชนทั่วไป ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึงเวลา 12.00 น. (เที่ยง) ของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นี้ ผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ (KTZ) และบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่าย และ ตั้งราคาเสนอขายที่ 4.00 – 8.00 บาทต่อ DR โดยผู้จองซื้อต้องชำระเงินค่าจองซื้อเต็มจำนวนที่ราคา DR ละ 8 บาท และจะได้รับเงินส่วนต่างคืนหากราคาเสนอขายสุดท้ายต่างจากราคาจองซื้อ 8 บาท ทั้งนี้ สำหรับการจองซื้อ IPO จะมีจำนวนจองซื้อขั้นต่ำเป็นไปตามที่แต่ละ บล. กำหนด ส่วนการเข้าซื้อขายในตลาดฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. 65 เป็นต้นไป ที่สำคัญนักลงทุนสามารถซื้อขายในตลาดฯ โดยมีขั้นต่ำเพียงแค่ 1 DR เท่านั้น

ทั้งนี้ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร ทุกกิจกรรมหลักในชีวิตประจำวัน รวมถึงการออมและการลงทุน ซึ่งการออกตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ Depositary Receipt (DR) อ้างอิงหุ้นสามัญต่างประเทศของกรุงไทยในครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่อ้างอิงหุ้นสามัญของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก อย่างอาลีบาบา (Alibaba) ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทย โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยได้เข้าถึงการลงทุนหุ้นต่างประเทศชั้นนำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเหมือนหุ้นทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ด้วยการซื้อขายในตลาดฯ ขั้นต่ำเพียง 1 DR และซื้อขายเป็นเงินบาท โดยธนาคารกรุงไทยในฐานะผู้ออก DR จะทำหน้าที่อย่างครบวงจรตั้งแต่การคัดสรร-ซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศแล้วนำมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงการทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องในตลาดรอง เพื่อให้ DR ที่ออกโดยธนาคารกรุงไทยมีสภาพคล่อง และติดตามข่าวสารเพื่ออัพเดตให้กับนักลงทุน ส่งผ่านเงินปันผลหลังหักค่าใช้จ่ายให้กับผู้ถือ DR เมื่อมีการจ่ายเงินปันผลจากหุ้นอ้างอิงต่างประเทศ

ย้ำอีกครั้ง…โอกาสแรกที่ของการลงทุน DR ที่อ้างอิงหุ้นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกอย่างอาลีบาบา เปิดขาย IPO ผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้(KTZ) และบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ใครยังไม่มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ สามารถเปิดบัญชีเตรียมไว้ก่อนได้เลย แล้วจองซื้อพร้อมกัน ในวันที่ 14-17 ก.พ.นี้ เท่านั้น
รายละเอียดเพิ่มเติม https://krungthai.com/th/krungthai-update/promotion-detail/956

#Krungthai #กรุงไทย #หุ้นDR #หุ้นAlibaba #AlibabaDR

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket